7 ประสบการณ์ชีวิตที่ควรเรียนรู้ถ้าอยากมี Mindset ดี
7 ประสบการณ์ชีวิตที่ควรเรียนรู้ถ้าอยากมี Mindset ดี
เวลาที่เรานั้นได้อ่านบทสัมภาษณ์ หรือคลิป Interview ของดารา เซเลบ หรือนักธุรกิจที่มาแชร์ความรู้และทัศนคติดี ๆ ทีไร เคยสงสัยไหมว่าพวกเขาผ่านประสบการณ์อะไรในชีวิตมาบ้าง ถึงตกตะกอนกลายเป็น Mindset ดี ๆ จนมาบอกต่อเรื่องราวได้
หากสาว ๆ เองก็อยากเป็นหนึ่งในคนที่มี Mindset ที่ดีมีมุมมองต่อโลกที่ช่วยต่อยอดความรู้ มีความสุข แสวงหาโอกาสในทุกช่วงเวลาของชีวิตห บางอย่างไม่จำเป็นต้องเสี่ยงแหย่ขาเข้าไปเอง แต่เรียนร็ผ่านประสบการณ์ของคนอื่นได้ หนึ่งในทางเลือกนั้นคือ 7 ประสบการณ์ชีวิตที่ควรเรียนรู้ถ้าอยากมี Mindset ดี เพียงแค่จดจำแล้วนำไปปรับใช้ เธอก็พัฒนาเป็นตัวเองในแบบที่ดีขึ้นได้ในทุกวัน ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลย
ลองลงมือทำสิ่งที่ต้องการ โดยไม่คาดหวังว่าต้องเพอร์เฟกต์
คนมากมายที่มีไอเดียดี ๆ เด็ด ๆ ที่พร้อมเอาไปทดลองใช้ แต่ไม่กล้าลองทำให้ชีวิตจริงเพราะติดกับดักความกลัวบ้าง comfort zone บ้าง กลัวทำแล้วล่ม กลัวทำแล้วออกมาไม่ดีอย่างที่ฝันไว้ โดยเฉพาะคนที่เป็นเพอร์เฟกชั่นนิสต์
หลายคนมาความคิดสร้างสรรค์ มีความฝันมากมายที่อยากทำ บางทีโอกาสมาแล้วด้วยซ้ำ แต่ดันคิดว่า ถ้าทำได้ไม่ดี 100% ก็ไม่ทำดีกว่า ทำให้เสียโอกาสนั้นไปอย่างน่าเสียดาย และสำหรับบางคนโอกาสนั้นอาจไม่มีคำว่าครั้งที่ 2 เพราะติดปัญหาเรื่องอายุเกิน สถานะไม่โสดแล้วเป็นต้น
หาแรงผลักดัน ให้ชีวิตก้าวเดินไปข้างหน้า
หากชีวิตตอนนี้ค่อนข้างคงตัว นิ่ง ๆ เรียบ ๆ ไปซะทุกอย่าง การเรียนการทำงานก็ทั่วไป เพื่อนก็ปกติ ที่บ้านก็ไม่มีปัญหา ทุกวันเอจแต่สภาพแวดล้อมเดิม ๆ บางคนจะเกิดภาวะ เฉื่อย (Burnout) ใช้ชีวิตไปวัน ๆ เพราะไม่มีอะไรกระตุ้นตัวเอง ซึ่งนานเข้าจะส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต
ดังนั้นควรพยายามหาแรงกระตุ้นที่จะทำให้ชีวิตไปข้างหน้าได้ตลอดเวลาโดยไม่สะดุด เช่น เรียนต่อ พบเจอผู้คนใหม่ ๆ สร้างคอนเนคชั่น หารายได้เสริมเผื่อเหตุไม่คาดฝันเป็นต้น
หาความสุขจากการได้ลองแก้ไขปัญหา
ชีวิตของสาว ๆ หลายคนอีรุงตุงนังไปด้วยปัญหา แต่ไม่สนใจจะแก้เพราะกลัวว่าถ้าแก้ผิด ชีวิตจะแย่กว่าเดิม โดยลืมคิดไปว่าถึงปล่อยไว้เฉย ๆ ชีวิตก็ไม่ได้ดีขึ้นเหมือนกัน แถมจะทุกข์ลงเรื่อย ๆ ด้วย เรื่องบางอย่าง แทรที่จะทนทุกข์ทรมานกับมัน ลองจับมาตีแผ่สาเหตุและวิธีแก้ปัญหาอย่างจริงจังดู
เช่น แทนที่จะเอาแต่โทษตัวเองว่าฉันมันโง่ เรียนไม่เก่ง ลองขยันอ่านหนังสือ ให้เพื่อนช่วยติว ทำข้อสอบย้อนหลังอย่างจริงจังสักครั้ง ทำให้สุดความสามารถ แล้วมีความสุขไปกับมัน อย่างน้อยเธอก็ทำเต็มที่ จะได้ไม่กังวลเรื่องนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆ อีก
เปลี่ยนระเบียบวินัยดี ๆ ให้กลายเป็นพฤติกรรมถาวร
สาว ๆ มากมายที่โตมากับพื้นฐานครอบครัว หรือโรงเรียนที่เข้มงวด ปลูกฝังระเบียบวินัยมามากมายตั้งแต่เด็ก ซึ่งบางอย่างก็ไม่เข้ากับยุคสมัยแล้ว โตมาก้ไม่จำเป็นต้องทำตามให้ลำบากใจอีกต่อไป แต่หลาย ๆ เรื่องก็สมควรนำมาปรับให้เป็นพฤติกรรมถาวรในชีวิตประจำวันได้ เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
อยู่กับปัจจุบันเป็นหลัก ไม่จมในอดีต ไม่วาดฝันกับอนาคต
มีคนมากมายในสังคม ที่ชีวิตไม่ก้าวหน้าไปไหน วนเวียนอยู่ที่จุดเดิม ๆ เพราะยังจมอยู่กับอดีตที่จบไปนานแล้ว ไม่มีวันหวนคืนมา หรือเพ้อฝันถึงอนาคตที่ไม่เคยมีอยู่จริง ทั้งที่กำลังใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน การอยู่กับปัจจุบันอย่างแท้จริง สัมผัสสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เคยสนใจมาก่อนเช่น กลิ่นหอมของข้าวที่ได้กิน ขนนุ่ม ๆ ของเจ้าหมาที่บ้าน กลิ่นหญ้าที่สนามหน้าบ้าน เท่านี้ก็ทำให้อบอุ่นใจ สมองปลอดโปร่งอย่างที่คาดไม่ถึง
ออกไปนอกบ้านเพื่อหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ
ชีวิตที่ไม่จมดิ่ง ไม่คิดลบ คือชีวิตที่ไม่ยึดติดอยู่ในกรอบ ดังนั้นการหมกตัวอยู่แต่ในบ้านเพียงอย่างเดียวไม่ช่วยปรับ Mindset ได้ดีเท่ากับ ไปเปิดหูเปิดตานอกบ้าน ออกไปนอกพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง เจอสิ่งที่ไม่คุ้นเคยบ้างเจอคนที่แตกต่างจากเราบ้าง
ไม่จำเป็นต้องไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัดก็ได้ถ้ายังไม่พร้อม แค่ออกไปเดินหน้าปากซอย สวนสาธารณะ คาเฟ่แถวบ้าน หรือเดินห้าง ก็ช่วยให้อารมณ์ที่หมอง ๆ แจ่มใสขึ้นแล้ว
เมื่อเกิดอุปสรรค เรียนรู้จากความล้มเหลวนั้น แล้วพัฒนาตัวเองให้เก่งกว่าเดิม
แน่นอนว่าชีวิตคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้แต่คนสวย ฐานะดี ฉลาด ก็มีจุดตกต่ำในชีวิตได้ทั้งนั้น ทุกคนย่อมมีวันสะดุด บางคนแค่หกล้มเป็นแผล แต่บางคนก็เหมือนตกเหวลึกที่ก้าวผ่านได้ยากเหลือเกิน ยกตัวอย่างเช่น ทำธุรกิจส่วนตัวมาหลายปี แต่สุดท้ายต้องปิดกิจการเพราะสถานการณ์โควิด ไม่มีลูกค้า เงินเก็บหายเกลี้ยง ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ แทนที่จะนั่งโทษตัวเองว่าบริหารไม่ดี หรือโทษโควิดไม่จบไม่สิ้น ลองเปลี่ยนความคิดเป็น Growth Mindset ดู ซึ่ง Growth Mindset สรุปสั้น ๆ ก็คือ แนวคิดว่าชีวิตทีทางออกเสมอ ไม่มีอะไรเป็นจุดจบทั้งนั้น
แหล่งที่มา : sistacafe.com
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!